โครเอเชีย vs บราซิล วิเคราะห์ (ใครจะชนะ) วิเคราะห์ รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงตัวสำรองของ โครเอเชีย เจอ บราซิล ก่อนแข่งขันบอลโลก 2022

อัปเดตข่าสฟุตบอลโลกได้ก่อนใคร ว่าใคจะชนะ ทุกคู่ทุกแมตช์ และวิเคราะห์ 11 ตัวผู้เล่นตัวจริงตัวสำรอง ของทั้งสองทีมชาติ บราซิล โครเอเชีย ฟุตบอลโลก2022

โครเอเชีย vs บราซิล วิเคราะห์ (ใครจะชนะ) วิเคราะห์ วิเคราะห์ รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงตัวสำรองของ โครเอเชีย

ความพร้อมในเกมนัดนี้ “น้าดาลิช” ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนใจเพิ่มเติม ส่วนการจัดทัพขอมทีมโครเอเชียนั้นก็ไม่ต้องสืบเลยว่าจะยึดทีมจากเกมนัดล่าสุดต่อไปแน่นอน เพราะไม่มีเหตุผลอะไรต้องปรับต้องเปลี่ยน เพียงแต่จุดที่น่ากังวลใจคือเดยัน ลอฟเรน กองหลัง และ ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์กัปตันทีม 2 ตัวเก๋า ต่างติดคาดโทษแบน หากโดนจดชื่อเพิ่มก็จะวืดรอบ 8 ทีมทันที ถ้าไปถึงทีมหมากรุกจะลงสนามในระบบแผน 4-3-3 นายทวารได้แก่โดมินิค ลิวาโควิช แนวรับวางใจประกอบไปด้วยโยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล และ บอร์นา บาริซิช  แดนกลางวาใจตัวรับอย่าง ลูก้า โมดริชจะคุมเกมในแดนกลางร่วมกับมาร์เซโล่ โบรโซวิช และ มาเตโอ โควาซิช โดยมีอันเดรจ์ ครามาริช, มาร์โก ลิวาย่า และ อิวาน เปริซิช เป็น 3 ประสานสร้างเกมในแดนหน้า

โครเอเชีย vs บราซิล วิเคราะห์ (ใครจะชนะ) เนย์มาร์ คืนสนามซัด 1 ตุงจ่อขยับสถิติทาบ เปเล่ พาทีมลอยลำเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

เนย์มาร์ คืนสนามซัด 1 ตุงจ่อขยับสถิติทาบ เปเล่ พาทีมลอยลำเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายทีมชาติบราซิล ของเทรนเนอร์ ติเต้ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ มาได้ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม จี โดยเกมล่าสุดแพ้ให้กับ ทีมชาติแคเมอรูน มา 0-1 ทางด้าน ทีมชาติเกาหลีใต้ ของเทรนเนอร์ เปาโล เบนโต้ พลิกล็อคเอาชนะได้ ทีมชาติโปรตุเกส 2-1 ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบมาได้ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอช เปิดฉากเกมในครึ่งแรกเพียง 7 นาที ทีมชาติบราซิล ยิงออกนำ 1-0 จากจังหวะขึ้นเกมทางขวาจาก ราฟินญ่า พาแหวกเข้าเขตโทษหักเข้าในหลุดมาเสาไกลถึง วินิซิอุส จูเนียร์ ล่อเป้าแบบไร้ตัวประกบผ่าน คิม ซึง-กิว ตุงตาข่ายนาทีที่ 11 “เซเลเซา” ขยับหนีเป็น 2-0 จากความผิดพลาดของ จอง วู-ยอง เสียเหลี่ยมโดนให้กับ ริชาร์ลิซอน สอดมาฉกบอลกลายเป็นหวดโดนคนเสีย จุดโทษ และเป็นอย่าง เนย์มาร์ ได้รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปอย่างใจเย็น 6 นาทีต่อมา “โสมขาว” ออกหมัดบ้าง ฮวาง ฮี-ชาน เก็บบอลหน้าเขตจุดโทษฝั่งซ้ายโยกเข้าในลองปั่นด้วยขวาระยะ 30 หลาโค้งหวิดเสียบใต้คานติดเพียงปลายมือ อลิสซง เบ็คเกอร์ นิดเดียวเองเท่านั้นต่อมานาทีที่ 29 บราซิล ยิ่งเพิ่มเป็น 3-0 จากจังหวะประสานงานสุดสวยจาก กาเซมีโร่ ขยับมาเชื่อมบอลในเกมแดนหน้ากรอบเขตโทษ 18 หลาเบิ้ลเร็วคืนให้ ริชาร์ลิซอน หลุดกับดักล้ำหน้าแปบอลสวนตัว คิม ซึง-กิว เข้าตาข่ายนาทีที่ 36 ประตูที่ 4-0 มาตามนัดคราวนี้เป็นอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ ตามมาเก็บบอลในเขตโทษฝั่งซ้ายดึงจังหวะยกบอลข้ามมาให้ ลูคัส ปาเกต้า สอดมาชาร์จกระดอนพื้นซุกหน้าต่างเสาไกลไม่พลาดช่วงทดเจ็บ “เซเลเซา” เดินเครื่องไม่มีผ่อน ราฟินญ่า เก็บบอลหน้าเขตโทษฝั่งขวายกต่อให้ ลูคัส ปาเกต้า สอดมาหน้ากรอบ 6 หลาดีดไปตรงตัว คิม ซึง-กิว ตบทิ้งออกมาได้ทันนาทีที่ 45+4 ริชาร์ลิซอน หลุดเดี่ยวขึ้นมาจากครึ่งสนามกระชากเข้าเขตโทษฝั่งขวาซัดไปติดเท้า คิม ซึง-กิว เด้งเข้าทาง เนย์มาร์ ซ้ำไม่ทันเตะข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย ต่อมานาทีที่ 76 ทีมชาติเกาหลีใต้ ตีไข่แตก 4-1 จนได้เป็นลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาบอลลอยไปติดหัวอย่าง กาเซมีโร่ โขกสกัดย้อนมาเข้าทาง เพค-ซึงโฮ เตะสวนด้วยซ้ายระยะร่วม 20 หลาแฉลบ ติอาโก้ ซิลวา พุ่งเสียบเสาแรกงามหยาบ 10 นาทีสุดท้าย ทีมชาติเกาหลีใต้ เกือบไล่มาอีกลูกจากบอลยาวทิ้งให้ โช กยู-ซอง โฉบเอาชนะแนวในรับ

โครเอเชีย vs บราซิล วิเคราะห์ (ใครจะชนะ) วิเคราะห์ รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงตัวสำรองของ บราซิล

รายชื่อ 11  ผู้เล่นตัวจริงตัวสำรองของ ทีมชาติบราซิล ติเต กุนซือทีมชาติบราซิล ต้องปวดหัวเมื่อจะไม่มี เนย์มาร์ กองหน้าตัวเก่งที่ได้รับการบาดเจ็บข้อเท้าจากนัดแรกที่ผ่านมาน่าจะพักยาวจนถึงเกมรอบน็อกเอาต์ แต่ตำแหน่งอื่นๆ ไม่การเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน แนวรับแดนหลังได้รับวางใจ ติอาโก ซิลวา, มาร์กินญอส ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ กาเซมิโร, ลูกัส ปาเกตา คุมจังหวะเกมแดนกลางสนาม แนวรุกจะต้องถอย ริชาร์ลิสัน ที่ยิง 2 เม็ดในเกมล่าสุดมาผนึกกำลังกับ อันโตนี และ วินิซิอุส จูเนียร์ ปั้นเกมรุก แดนหน้าส่ง กาเบรียล เชซุส กองหน้าฟอร์มร้อนจากค่ายอาร์เซนอลลงยืนคุมหน้าเป้า คาดหมายผู้เล่น 11 ตัวจริง อลิสสัน เบคเกอร์, ดานิโล, ติอาโก ซิลวา, มาร์กินญอส, อเล็ก ซานโดร, กาเซมิโร, ลูกัส ปาเกตา วินิซิอุส จูเนียร์, ริชาร์ลิสัน ราฟินญา กาเบรียล เชซุส

โครเอเชีย vs บราซิล วิเคราะห์ (ใครจะชนะ)  โครเอเชียเอาชนะทัพซามูไรดวลจุดโทษ

โครเอเชียเอาชนะทัพซามูไรดวลจุดโทษทัพซามูไรผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาในฐานะแชมป์กลุ่ม E ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงในการเบียดเอาชนะเยอรมนีและสเปนมาได้ ส่วนโครเอเชียก็เป็นรองแชมป์กลุ่ม เอฟ โครแอตนำมาโดยกัปตันทีมจอมเก๋า ลูก้า โมดริช โดยสภาพทีมถือว่าสมบูรณ์ทีเดียว ส่วนญี่ปุ่นขาดปราการหลังตัวหลักอย่าง โค อิตาคุระ ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองในหลายนัด เริ่มเกมเพียงมาได้ไม่นานเพียง 3 นาที เป็นทีมชาติญี่ปุ่นที่มีโอกาสได้ทักทายก่อน จากลูกสูตรของจังหวะเตะมุม โดยโชโกะ ทานิงูชิ ได้โขกหลุดเสาออกไปไม่ไกล เป็นทีมชาติญี่ปุ่นที่ได้ขึงอยู่พักใหญ่ จนมาได้ประตูขึ้นนำจากลูกสูตรของจังหวะเตะมุม ที่พยายามเปิดบอลเข้าไปลุ้นหน้าประตูอยู่หลายครั้ง ไดเซ็น มาเอดะ ที่ยิงเข้าไปในนาทีที่ 43 ประเดิมประตูแรกในฟุตบอลโลกให้กับตัวเอง และพาทัพซามูไรบลูส์ออกนำ 1-0 ในช่วงเวลาสำคัญ ทัพตาหมากรุกเล่นตามเกมไปเรื่อย ๆ จากนั้นก็มาได้ประตูตีเสมอ จากการเปิดของเดยัน ลอฟเรน และเป็น อิวาน เปริซิช ที่ขึ้นโขกบริเวณกรอบเขตโทษ บอลเสียบหน้าต่างเข้าไปอย่างสวยงาม ในนาทีที่ 55 ในนาทีที่ 63 โครเอเชียเกือบได้ประตูขึ้นนำเช่นกัน ลูก้า โมดริช ได้วอลเลย์ลูกใบไม่ร่วงเน้น ๆ ในหน้ากรอบเขตโทษ บอลกำลังจะฮุกเสียบใต้คาน แต่กอนดะ ยังทยานมาปัดไว้ได้ เรียกว่ายอดเยี่ยมทั้งคนยิงและคนเซฟเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม ทั้งคู่ยังคงบุกใส่กันเป็นระยะ แต่ก็มีแค่จังหวะหวาดเสียว เวลายิ่งใกล้หมดเวลาทั้งคู่ก็เริ่มเน้นการครองบอลเป็นหลักและไม่เสียบอลง่ายๆในแดนหลัง จบเกมจึงทำอะไรกันไม่ได้ ต้องไปสู้กันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ มาเตโอ โควาซิช และลูก้า โมดริช 2 กองกลางตัวอายุมากประสบณ์การของทีมชาติโครเอเชีย ได้ถูกเปลี่ยนตัวออก เพื่อเพิ่มความสดความมันส์ให้กับทีมโอกาสได้ลุ้นจะแจ้งเป็นของ คาโอรุ มิโตมะ ที่โซโล่มาคนเดียวและยิงไกลในหน้ากรอบเขตโทษ ทำให้ผู้รักษาประตูทีมโครเอเชียต้องผวาปัดออกไป เสมอกันที่สกอร์ 1-1 และต้องดวลกันถึงฎีกาที่จุดโทษญี่ปุ่นไม่ละเอียดพอ พลาดจุกโทษถึง 3 คน จาก 4 คน อย่าง ทาคูมิ มินามิโนะ, คาโอรุ มิโตมะ และกัปตันทีมอย่าง มายะ โยชิดะ ที่ยิงไปติดเซฟจาก โดมินิก ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีม ขณะที่ผู้เล่นโครเอเชียแม่นโทษมากกว่าพลาดเพียงครั้งเดียวคนเดียว จึงเก็บแต้มเอาชนะมาได้ ญี่ปุ่นไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 โครเอเชียได้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปเจอบราซิล

โครเอเชีย ผลงาน

วันที่ 1 ธันวาคม 2022 เบลเยียม 0-0 (บอลโลก 2022)

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2022 ชนะ แคนาดา 4-1 (บอลโลก 2022)

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2022 เสมอ โมร็อกโก 0-0 (บอลโลก 2022)

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2022 ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-0 (กระชับมิตร) วันที่ 26 กันยายน 2022 ชนะ ออสเตรีย 3-1 (ยูฟ่า เนชั่นส์ลีก)