รุมชู เบลลิงแฮม สุดเจ๋ง สวมบทพระเอก ‘เอล กลาซิโก้’

jude bellingham

จู๊ด เบลลิงแฮม ได้รับคำวิจารณ์อย่างล้นหลาม หลังระเบิดฟอร์มเป็นฮีโร่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ยิง 2 ประตูช่วงเป็นหรือตาย นำ เรอัล มาดริด แซง บาร์เซโลน่า คว้าชัยชนะ 2-1 อย่างสุดเร้าใจ

สื่อ นักวิจารณ์ แม้กระทั่งแฟนบอล ต่างก็ยกย่อง จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งของ เรอัล มาดริด ที่ยังคงระเบิดฟอร์มเป็นฮีโร่ของทีม ล่าสุด ยิงไป 2 ประตูในจังหวะชี้ขาด นำต้นสังกัดแซงบาร์เซโลน่าในเกมสุดระทึก 2-1 ในศึกเอล กลาซิโก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เกมถล่มเมืองกระทิงดุวันที่ 28 ต.ค. บาร์ซาเกือบคว้าชัย เมื่อพวกเขาขึ้นนำจากอิลคาย กุนโดกันตั้งแต่ต้นเกมในนาทีที่ 6 แต่แล้วช่วงท้ายเกมเรอัล มาดริด แซงเอาชนะไปได้ 2-1 จากลูกยิงของเบลลิงแฮมในนาทีที่ 68 และทดเวลาบาดเจ็บ 90+2

สองประตูล่าสุดพากองกลางทีมชาติอังกฤษซึ่งเป็นเป้าหมายของลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงไป 13 ประตูจาก 13 นัดให้กับเรอัล มาดริด นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ และเป็นประตูที่ 10 ในลา ลีกา ซึ่งนำผู้ทำประตูอยู่ในขณะนี้

หลังจบเกม คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมชุดขาว กล่าวชื่นชมกองกลางวัย 20 ปี กล่าวว่า “เราทุกคนต่างประหลาดใจกับระดับของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของอิทธิพลของเขาที่มีต่อทีม”

“เขาพยายามวิ่งจากหลังไปหน้า ความประหลาดใจในวันนี้คือการยิงของเขา เพราะเขาไม่ได้ยิงจากระยะไกลมากนัก ครั้งนี้เขาโดดเด่นมาก เขาสามารถทำประตูได้ 20-25 ประตูอย่างง่ายดาย เราไม่เห็นว่าเขาเป็นหมัดเด็ด แต่เขาสำคัญมากสำหรับเรา เขาทำประตูให้เรามากมาย แต่เรายังคาดหวังประตูจากกองหน้าด้วย”

“เขาเป็นเหมือนทหารที่ผ่านการทำสงคราม ทัศนคติของเขาน่าทึ่งมาก ยิ่งเข้าใกล้เขตโทษยิ่งดี เขาแค่เริ่มดีขึ้นเท่านั้น เขาสามารถสร้างความแตกต่างได้ ผมไม่รู้ว่าวันหนึ่งเขาจะได้บัลลงดอร์หรือเปล่า ฉันไม่สนใจ”

สื่อเกือบทุกสื่อเอารูปเบลลิงแฮมขึ้นหน้าปกพร้อมพาดหัวข่าวชัยชนะของเรอัล มาดริด โดยเฉพาะสื่ออังกฤษ แม้ว่าในวันเดียวกันจะมีปัญหาใหญ่ เช่น การแพ้เชลซีในบ้าน และการชนะอาร์เซนอล โดยแฮตทริกของ Eddie Nketiah เป็นส่วนสำคัญ

นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่าแฟน ๆ กว่า 95% โหวตให้เบลลิงแฮมเป็นผู้เล่นทีมชาติอังกฤษคนต่อไป ที่จะคว้ารางวัลโกลเด้น บอย ต่อจากเวย์น รูนีย์ ในปี 2004 และราฮีม สเตอร์ลิง ในปี 2014