บิลลี่ คูเมติโอ อาจกล้าเข้ามาแทนที่โกเมซที่ลิเวอร์พูล

Billy Koumetio

บิลลี โคเมติโอ กองหลังลิเวอร์พูล ยิงประตูสุดสวยจากครึ่งสนาม ยกย่องจากผู้เล่นอาวุโส

บิลลี โคเมติโอ กองหลังลิเวอร์พูลทำประตูสุดสวยจากลูกยิงครึ่งสนาม ลิเวอร์พูล U-21 เอาชนะ PSG U-21 4-2 ใน Premier League International Cup เมื่อวันพุธ

ปราการหลังวัย 20 ปีลงเล่น 11 นัดให้กับทีมในลีกออสเตรียชื่อ Austria Wien ซึ่งเขาใช้เวลาในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล ยืมตัวก่อนกลับต้นสังกัดเมื่อสักครู่เขาลงเล่นนัดนั้นยิงได้ 2 ประตูและนัดนี้ยิงเกินครึ่งสนามในนาทีที่ 9 ช่วยให้ทีมขึ้นนำ 1-0 เป็นประโยชน์

และหลังจากที่ Coumetio โพสต์คลิปการยิงครึ่งสนามลง Instagram เพื่อนร่วมทีมและทุกคนต่างก็ทึ่งกับผลงานการทำประตูของ Roberto Firmino และ Divock Origi รุ่นพี่สองคนกำลังฝึกซ้อมที่สนามเดียวกัน ฉันรู้สึกประทับใจ มาชื่นชมผลงานของรุ่นน้อง

สำหรับบิลลี คูเมติโอ เขาถือเป็นหนึ่งในกองหลังคนสำคัญของลิเวอร์พูลในอนาคต โดยได้โอกาสลงเล่น 2 เกมกับทีมชั้นนำ

วิกฤตลิเวอร์พูล นานแค่ไหน เสีย โจ โกเมซ ใครจะมาแทน?

คำพูดเดิมๆ ท้องฟ้าไม่เคยถล่มซ้ำที่เดิม ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้

หลังเสีย เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ไปเมื่อต้นเดือนตุลาคม จากการโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารเพื่อนร่วมทีมเอฟเวอร์ตันเข้าใส่อย่างหนักจนเอ็นหัวเข่าฉีก ต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยประเมินว่า กว่าจะได้เห็นหน้ากันอีกครั้ง อาจต้องรอถึงฤดูกาลหน้า และต่อด้วยการสูญเสีย ฟาบินโญ่ มิดฟิลด์ตัวรับต้องแบกรับภาระในสนามหลังเจ็บเอ็นร้อยหวาย ยังตามมาด้วยการเสีย เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็คขวาตัวจริงได้รับบาดเจ็บน่องในเกมล่าสุด

ล่าสุด โจ โกเมซ ปราการหลังที่เป็นเสาหลักแบกทีมมาตลอดตั้งแต่ ฟาน ไดจ์ค บาดเจ็บและหลับไปอีกครั้ง และไม่ใช่อาการบาดเจ็บธรรมดา เพราะตามการเปิดเผยของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล คือการผ่าตัด ‘เอ็น’ ที่หัวเข่า ซึ่งแม้จะไม่ใช่เอ็นไขว้หน้าอย่างที่กลัวกัน แต่ความรุนแรงแทบไม่ต่างกัน

ข้อกังวลคืออาการบาดเจ็บของกองหลังวัย 23 ปีเกิดขึ้นเอง โดยไม่มีผู้เล่นคนใดชนหรือเข้าใกล้ แกเร็ธ เซาธ์เกต เผย โดยผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเองก็กังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บครั้งนี้

“จากข้อเท็จจริงที่ว่าไม่มีผู้เล่นคนใดอยู่ใกล้เขาตอนที่เขาได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตอนนี้ผมไม่ชอบเลย” เซาธ์เกตกล่าว

เมื่อพูดถึงอาการบาดเจ็บของโกเมซ นิค โป๊ป ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษบรรยายเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “โจส่งบอลหรือเคลื่อนที่โดยไม่มีใครอยู่ใกล้เขา จากนั้นเขาก็ทรุดตัวลงกับพื้น และดูเหมือนจะเจ็บมาก

“การได้เห็นโจผ่านอะไรแบบนี้ และเห็นความเจ็บปวดของเขามันไม่ง่ายเลย สำหรับฉันหรือเพื่อนคนไหน?

มันไม่ง่ายสำหรับลิเวอร์พูล, เจอร์เก้น คล็อปป์ และเดอะค็อปทั่วโลกที่ไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้

ระยะเวลาการรักษา

คำถามที่แฟนลิเวอร์พูลอยากรู้และกังวลคือ โกเมซจะไม่ได้ลงเล่นนานแค่ไหน?

จากแถลงการณ์ของสโมสรเอง ลิเวอร์พูลกล่าวว่า “ไม่มีกรอบเวลาสำหรับการกลับมาของเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะพลาดช่วงเวลาส่วนใหญ่ที่เหลือของฤดูกาล 2020-21”

ได้ยินเช่นนี้ดูเหมือนมีความหวัง แต่จะกลับมาภายในนัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้ ซึ่งจะปิดฉาก 23 พ.ค.ปีหน้า นั่นหมายความว่าเขามีเวลาเพียง 6 เดือนในการกลับมา

ประเมินเบื้องต้นในขั้นตอนการรักษา ซึ่งตอนนี้ โกเมซ ต้องเข้ารับการผ่าตัดใส่เหล็กดามเข่าเพื่อรอให้เอ็นและกระดูกหายเป็นปกติตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับการผ่าตัด คาดว่าจะใช้เวลา 8-12 สัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ -3 เดือนเพื่อให้ขาของเขาเริ่มขยับได้อีกครั้ง

อีก 3 เดือนเข้าฟิตเนสน่าจะพอ

แต่ในชีวิตจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้น ยกตัวอย่างเช่น เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ซึ่งได้รับบาดเจ็บคล้ายๆ กันในปี 2015 โดยที่ผู้รักษาประตูรายนี้เล่นให้เซาแธมป์ตันในตอนนั้นโดยไม่ได้พบกับใครเลย แค่พยายามเตะบอลให้โล่ง ต้องใช้เวลาถึง 10 เดือนในการรักษา

“สองสามเดือนแรกเป็นเพียงการทดสอบ สิ่งที่ต้องทำคือปล่อยให้ธรรมชาติรักษาตัวเอง” ฟอร์สเตอร์พูดถึงอาการบาดเจ็บของเขา

อีกคนที่มีอาการปวดเหมือนกัน แต่จากเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน ร็อบบี้ เบรดี้ ของเบิร์นลี่ย์ได้รับบาดเจ็บในเดือนธันวาคม 2560 ในการปะทะกับแฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ยังเล่นให้กับเลสเตอร์ ซิตี้

เบรดี้คิดว่าจะใช้เวลาเพียงหกเดือนในการฟื้นตัว แต่ศัลยแพทย์บอกว่าจะใช้เวลา 6-9 เดือน และไม่ได้หมายความว่าเขาจะหายเป็นปกติ เพราะมันหมดไปแล้วจริงๆ ต้องใช้เวลาอีก 12-18 เดือน และมีโอกาสบาดเจ็บได้เสมอ

ดังนั้นบางทีการปัด Gomez ออกจากฤดูกาลตาม Van Dijk อาจเป็นความคิดที่ดีกว่า

ตัวเลือกที่เหลือในทีม

การเสียเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริง 2 คนพร้อมกันเกือบจบฤดูกาล (ถ้าอยากยอมรับความจริง) ภายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน. หกเดือนที่เหลือของฤดูกาลนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับทีมใดมาก่อน

นี่เป็นความท้าทายที่ยากที่สุดสำหรับคล็อปป์และทีมงานของเขา

เขาจะหาทางสนับสนุนลิเวอร์พูลระหว่างนี้ไปจนถึงจบฤดูกาลได้อย่างไร? หรืออย่างน้อยในอีก 11 นัดที่เหลือ ก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะจะเปิดทำการอีกครั้งในเดือนมกราคม

ตัวเลือกแรกที่ง่ายที่สุดสำหรับคล็อปป์คือการใช้ผู้เล่นที่เหลือในทีม แต่ปัญหาคือผู้เล่นที่เหลือไม่มีใครสามารถทิ้งผีได้แม้แต่คนเดียว

Joel Matip กองหลังชาวแคเมอรูนเป็นกองหลังตัวหลักเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในทีม มีเพียงกองหลังชาวแคเมอรูนเท่านั้นที่มีปัญหากับสภาพร่างกายที่เปราะบาง คล็อปป์เองก็เคยยอมรับว่าปราการหลังวัย 29 ปีไม่สามารถเล่นได้อย่างต่อเนื่อง

พูดง่ายๆ ก็คือ มาติปจำเป็นต้องพักการแข่งขันทุกนัด เพื่อไม่ให้ร่างกายของเขาไปอยู่ใน ‘โซนสีแดง’ ซึ่งเสี่ยงต่อการบาดเจ็บสูง ซึ่งฤดูกาลนี้มีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดอย่างเห็นได้ชัด และเพิ่งกลับมาได้ในเกมล่าสุดเท่านั้น

แบบนี้คงไม่ใช่คนที่ทีมจะไว้ใจให้ผีออกไข้ได้แน่นอน ยกเว้นเพื่อเสริมสร้างสภาพร่างกาย

ตัวเลือกต่อไปคือฟาบินโญ่ กองกลางฮาร์ดแมนผู้เสียสละเล่นได้ดีในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งแม้อาจมีปัญหาบ้างเมื่อเจอกองหน้าที่แข็งแกร่งหรือมีความเร็วสูง แต่โดยรวมแล้ว สตาร์ชาวบราซิลทำผลงานได้ดี

ปัญหาคืออาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งหมายความว่า Fabinho ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บอยู่เสมอ

ถัดมาคือ Rhys Williams เจ้าหนูวัย 19 ปีผู้มีโชคลาภมหาศาล เพราะเดิมไม่อยู่ในแผนการทำทีมมาก่อน แต่ได้โอกาสลงเล่นในฤดูกาลนี้ เนื่องจาก บิลลี่ คูเมติโอ ปราการหลังดาวรุ่งที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงปรีซีซั่นได้รับบาดเจ็บในช่วงต้นฤดูกาล

วิลเลียมส์เล่นได้น่าประทับใจในทุกเกมที่เขาเล่น ไม่ว่าจะเป็นเกมลีก คัพ หรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ด้วยอายุ ฝีเท้า และประสบการณ์ กระดูกของเขายังบางเกินไปที่จะแบกรับผลงานที่ทรยศ

นอกจากวิลเลียมส์แล้ว ยังมีแน็ต ฟิลลิปส์ กองหลังที่ไม่มีอนาคตในทีม เมื่อไม่อยู่ในแผนของ คล็อปป์ ในฤดูกาลนี้ ไม่มีชื่อเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก และเตรียมถูกขายแต่ยังหาทีมซื้อไม่ได้ ก่อนจะได้โอกาสลงเล่นด้วยความจำเป็นในเกมกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และผลักดันให้เขาลงเล่น อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับรางวัล Best Player of the Game

แต่ฟิลลิปส์มีจุดอ่อนสำหรับก้าวที่น่าสงสัย ความเร็วที่เป็นปัญหาซึ่งในบางแมตช์อาจถูกชดเชยด้วยความมุ่งมั่น แต่บางครั้งความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม เขาและวิลเลี่ยมส์จะต้องลงมาช่วยแบกทีม อย่างน้อยระหว่างนี้และตลาดเปิดในเดือนมกราคม เป็นไปได้ที่จะสลับกับมาติปและฟาบินโญ่ ซึ่งจะเป็นคู่หลักของทีมในระหว่างนี้

ส่วนตัวเลือกสำรองที่เหลือก็ขยับตัวอื่นลงมา เช่น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมที่ตัวสูง จ่ายบอลดี แข็งแกร่ง และเข้าใจเกมรับค่อนข้างดี หรือ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายแม้จะตัวเล็ก แต่ก็สามารถเล่นตรงกลางได้หากจำเป็น เพราะเล่นให้ทีมชาติสกอตแลนด์เหมือนกัน เป็นแค่ระบบกองหลัง 3 คน ซึ่งต่างจากกองหลัง 2 คนแบบ 2 คนมาก

กลุ่มดาวอายุน้อยอย่างคูเมติโอจะขาดสิ่งนี้ไป ที่สร้างความฮือฮาในช่วงปรีซีซั่นด้วยรูปร่างสูงใหญ่ และสไตล์การเล่นที่น่าสนใจ และ เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก ดาวรุ่งที่ย้ายมาเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ชวนฝันว่าเป็นแฟนไดจ์คคนใหม่ในอนาคต

แน่นอนว่าหากผู้เล่นเหล่านี้สามารถทดแทนบางคนได้ และคนอื่นๆ ในทีมก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยทีมให้ผ่านพ้นวิกฤตไปได้ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด

ผู้เล่นใหม่คนไหนที่ใช่?

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากตลาดซื้อขายเปิด คล็อปป์ และทีมงานอาจจำเป็นต้องย้ายด่วนในการสรรหา เพราะทีมจะเสี่ยงกับวิกฤตินี้ไม่ได้

แต่เป็นเพียงคำถามอื่น เลือกแก้ปัญหาระยะสั้นหรือระยะยาว

เป็นเรื่องปกติที่จะนึกถึงลิเวอร์พูลภายใต้การนำของ FSG โดยมีไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์เป็นมันสมองของสโมสร มีแนวโน้มว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกจะเลือกวิธีแก้ปัญหาระยะยาวมากกว่าระยะสั้น

เป้าหมายที่ลิเวอร์พูลเคยต้องการก็มีชื่อของเบน ไวท์ ปราการหลังของไบรท์ตันที่ตกเป็นเป้าหมายของหลายสโมสรเช่นกัน แค่เพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่ไปเมื่อต้นฤดูกาลก็สามารถเพิ่มค่าตัวได้ถึง 50 ล้านปอนด์

อีกคนคือโอซาน คาบัค ปราการหลังดาวรุ่งชาวตุรกีจากชาลเก้ 04 แต่ผลงานทีมในฤดูกาลนี้แย่มาก และฉันคิดว่านั่นจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับสถานการณ์นี้จริงๆ หรือ?

และเนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้มีรายงานข่าวว่า Klopp อาจเปลี่ยนจากการเน้นนักเตะอนาคตไกลมาเป็นนักเตะ Liverpool ของเขาเอง มาซื้อนักเตะที่สามารถยืนเป็นตัวหลักของสโมสรได้เลย

ถ้าคิดแบบนี้จะมี 3 รายชื่อนักเตะตกชั้นทันที คาลิดู คูลิบาลี่ เสาหลักของทีมนาโปลีที่เป็นหนึ่งในกองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก และยังเป็นเพื่อนสนิทของ ซาดิโอ มาเน่ กองหน้าทีมชาติเซเนกัล ซึ่งมีโอกาสย้ายทีมหากตกลงค่าตัวกันได้

ผู้เล่นที่อายุน้อยกว่าอีกคนคือ Dayot Upamecano ของ RB Leipzig ซึ่งร้อนแรงที่สุดในช่วงที่ผ่านมา (แม้จะเสียอาการไปบ้างหลังโดนแมนยูถล่มยับในแชมเปี้ยนส์ลีก) ด้วยความสัมพันธ์อันดีระหว่างลิเวอร์พูลกับทีมในบุนเดสลีกา เป็นไปได้ว่าอาจมีการย้ายทีมในช่วงกลางฤดูกาล แต่ไม่น่าจะได้รับอนุญาตให้ย้ายทันที

คนสุดท้ายที่น่าสนใจคือ ดาวิด อลาบา กองหน้าตัวหลักของบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งพร้อมเจรจาการย้ายทีมหลังวันที่ 1 มกราคม ปีหน้า เนื่องจากสัญญาของเขาจะหมดลงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้

ถ้าว่ากันด้วยฝีเท้าและประสบการณ์ อลาบา ที่เพิ่งผันตัวมาเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟก็ผ่านการทดสอบทุกอย่าง ทั้งความเร็ว, ความแข็งแกร่ง, ครองบอลดี, เล่นบอลบนพื้นดี, เปิดบอลแม่น, เล่นลูกกลางอากาศได้เยี่ยม และด้วยเงื่อนไขการย้ายทีม ลิเวอร์พูล มีข้อได้เปรียบตรงที่สามารถซื้อได้ในราคาต่ำตลอดอายุสัญญา

ปัญหาคือเขาไม่ใช่ผู้เล่นที่คล็อปป์เคยสนใจมาก่อน และมีหลายทีมที่ให้ความสนใจมากขึ้น.

ด้วยเหตุนี้ คล็อปป์จึงอาจเลือกวิธีแก้ปัญหาระยะสั้นกับกองหลังที่มีความเร็วและประสบการณ์ และเข้ากับสไตล์ประมาณหนึ่ง

อาจจะเซ็นสัญญายืมตัวหรือเซ็นสัญญาระยะสั้นเพื่อให้ทีมผ่านช่วงเวลาที่โหดร้ายในฤดูกาลนี้ไปก่อน แม้จะเป็นธรรมชาติ ขัดกับแนวทางปฏิบัติที่ยึดถือมาสักระยะก็ต้องเข้าใจ ตอนนี้เลือกอะไรไม่ได้เลยจริงๆ

ตรวจสอบความสนุกและการเล่นเกมอื่น ๆ ได้ที่นี่: apollo pg, b.spk 168.net, ib88, luckyvip77, pg betflik