ธีรศิลป์ จัด 2 แอสซิสต์ให้ ศุภณัฏฐ์ เบิ้ลพาทีมชาติไทยดับสิงคโปร์

มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ทีเด็ด เปลี่ยนลงแอสซิสต์ให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา หลุดเข้าไปตะบัน 2 ประตูครึ่งหลัง ให้ทีมชาติไทย บุกขย้ำ สิงคโปร์ คาบ้าน 3-1 พร้อมยึดรองจ่าฝูงกลุ่ม ซี ต่อลมหายใจลุ้นไปลุยฟุตบอลโลกได้สำเร็จ โดยนัดต่อไป “ช้างศึก” มีคิวบุกไปเยือน เกาหลีใต้ ในวันที่ 21 มี.ค. 2567 การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง สายซี นัดที่สอง ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2566 ทีมชาติสิงคโปร์ อันดับ 155 ของโลก และที่ 31 เอเชีย เปิดบ้านรับการมาเยือน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย อันดับ 112 โลก และที่ 21 เอเชีย   โดย 11 คนแรกของทีมชาติไทย ระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ผู้รักษาประตู , นิติพงษ์ เสลานนท์ แบ็กขวา , สุพรรณ ทองสงค์  ,เอเลียส ดอเลาะ เซนเตอร์ฮาล์ฟ ,ธีราทร บุญมาทัน , มิดฟิลด์ 2 ราย สารัช อยู่เย็น และ พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล ส่วน 3 ตัวบน  สุภโชค สารชาติ ตัวรุกฝั่งซ้าย,เอกนิษฐ์ ปัญญา ปักหลักหลังกองหน้า และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ตัวรุกฝั่งขวา ส่วน  ศุภชัย ใจเด็ด รับบทหน้าเป้า  ฝั่ง ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือชาวญี่ปุ่นของทีมชาติสิงคโปร์ ไม่มี อิรฟาน ฟานดี้ แนวรับตัวหลักจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ดที่บาดเจ็บ แต่มี ไรฮาน สจ๊วต แบ็กขวาจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด , ฮาริส ฮารุน กัปตันทีมคุมเกม โดยหน้าเป้า เกมนี้มีฝนตกลงมาตั้งแต่ช่วงเช้าที่สิงคโปร์ แต่ทางสนามได้ปิดหลังคาป้องกันฝนเรียบร้อย เริ่มเกมมาในนาทีที่แรก ทัพ “ช้างศึก” เดินหน้าบุกกดดันเข้าใส่ก่อน แล้วเป็น สุภโชค สารชาติ ที่ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้าย แล้วตัดสินใจยิงด้วยขวาส่งบอลพุ่งไปเสาสอง แต่กองหลังสิงคโปร์ ยังสกัดบอลออกไปได้ ต่อมาในนาทีที่ 5 กัปตัน “อุ้ม” ธีราทร ทุ่มให้ “บุ๊ค” เอกนิษฐ์ ดาวเตะ อุราวะ เรดส์ กระดกบอลให้ “เช็ค” สุภโชค ตัวจี๊ด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ปิดบัญชีเฉียบขาด พา ทีมชาติไทย บุกนำ ทีมชาติสิงคโปร์  1-0 เกมดำเนินถึงนาทีที่ 28 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา วิ่งทะลุช่องเข้าไปเก็บบอลในกรอบเขตโทา ก่อนจ่ายกลับมาให้ เอกนิษฐ์ ปัญญา มีจังหวะจ่ายออกมาหน้ากรอบเขตโทษให้ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ได้โอกาสยิงไกลด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งตรงกรอบ แต่โกลเจ้าถิ่นยังปัดบอลออกหลังไปได้  น.32 สิงคโปร์ มีลุ้นตีเสมอจากฟรีคิก ก่อนที่บอลจะมาถึง ซาฟูวัน บาฮารุดิน ที่โถมโขกใส่ สุพรรณ ทองสงค์ เล่นเอาสุพรรณนอนเจ็บ จังหวะนี้ไทยสวนเร็ว บอลโต้ถึงหน้าประตูสิงคโปร์ ศุถชัย ใจเด็ด ได้ซัดเหน่งๆบนเส้นหัวกะโหลก บอลยังติดเซฟหลังจากนั้นอีก 5 นาที ทัพ “ช้างศึก”ได้จังหวะสวนกลับก่อนเป็น เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่พาบอลออกมาแล้วแตะหลบกองหลังเจ้าถิ่น แล้วไหลมาให้ ศุภชัย ใจเด็ด ได้จังหวะตั้งป้อมยิงโล่งๆ จากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ ฮัสซัน ซันนี่ ยังพุ่งปัดบอลออกหลังไปได้ เกมดำเนินถึงนาทีที่ 36 นิติพงษ์ เสลานนท์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจ่ายมาให้ เอกนิษฐ์ ปัญญา ได้จังหวะไขว้บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ยังเป็น ฮัสซัน ซันนี่ ที่ใช้ขาเซฟบอลออกหลังไปได้   เข้าสู่ช่วงท้ายเกม น.40 สิงคโปร์ ตีเสมอ ไทย 1-1 จากลูกชาร์จของกองหน้าตัวสำรอง ชาวาล อันอาร์ บอลแรกติดเซฟ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล แต่บอลยังปลิ้นเข้าประตูไป หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบครึ่งแรก ทีมชาติสิงคโปร์ เสมอ ทีมชาติไทย 1-1ครึ่งหลัง น.46 ไทย เปลี่ยนตัว ส่ง กฤษดา กาแมน ลงแทน สุพรรณ ทองสงค์ ที่บาดเจ็บในเกมครึ่งแรก น.65 ไทย เปลี่ยน 3 คนรวด ส่ง “เทพมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา แทน ศุภชัย ใจเด็ด ,บดินทร์ ผาลา แทน นิติพงษ์ เสลานนท์ และ  วีระเทพ ป้อมพันธ์ ลงแทน พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล และสัมผัสแรกของ ธีรศิลป์ แดงดา ที่จับบอลก่อนจะแต่งอีกหนึ่งจังหวะแล้วจ่ายทะลุช่องให้ ศุภณัฐฎ์ เหมือนตา หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาเข้าไปช่วยให้ไทย นำ สิงคโปร์ 2-1   น.76 ไทยถอด เอกนิษฐ์ ปัญญา ออก แล้วส่ง ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ลงแทน  น.87 จังหวะโต้กลับของไทย “เทพมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ที่ได้ความเก๋า พาบอลขึ้นทางขวา ก่อนม้วนเข้ากลางแล้วจ่ายเข้าในให้ ศุภณัฐฎ์ เหมือนตา ที่ลากไปซัดนิ่มๆ บอลผ่านเซฟ ฮัสซัน ซันนี่ เข้าไป ไทยบุกนำ 3-1 จบเกม สิงคโปร์ แพ้ ไทย 1-3 ส่วนผลอีกคู่ในสายซี จีน แพ้ เกาหลีใต้ 0-3 โดยโปรแกรมนัดที่สาม แข่งขันวันพฤหัสบดี 21 มี.ค.67 เกาหลีใต้ พบ ไทย และ สิงคโปร์ พบ จีน